1347 จำนวนผู้เข้าชม |
ยิ่งอยู่คอนโดชั้นสูง ๆ แสงแดดที่ส่องเข้ามาจากด้านนอก อาจทำให้ห้องร้อนได้มากกว่าการอยู่บ้านทั่วไป ส่งผลให้ห้องร้อนอบอ้าว ผู้อยู่อาศัยจึงมักมองหาตัวช่วยมาป้องกันแสงแดดและความร้อนที่สะสมอยู่ในตัวห้อง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับไอเทมยอดฮิตที่ช่วยบดบังแสงและรังสีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพกับ "ผ้าม่านทึบแสงกัน UV" แต่ผ้าม่านลักษณะนี้จะเป็นอย่างไร มีข้อดีแค่ไหน ติดตามได้ที่นี่เลย
แม้ว่าผ้าม่านจะกันแสงได้เหมือน ๆ กันทุกประเภท แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันระดับความสว่างและความร้อนที่สาดเข้ามา รวมถึงความสามารถในการช่วยป้องกันรังสี UV นั้นแตกต่างกัน จึงเป็นที่มาที่ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มมองหาผ้าม่านกันความร้อนที่ใช่ ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อยู่อาศัยในคอนโด ยิ่งต้องเลือกผ้าม่านให้เหมาะสม และ “ผ้าม่านทึบแสง” ก็เป็นหนึ่งในคำตอบ!
ผ้าม่านทึบแสง เป็นนวัตกรรมการผลิตผ้าม่านที่ออกแบบมาเพื่อป้องกัน UV และความร้อนจากแสงแดดเป็นหลัก โดยมีคุณสมบัติโดดเด่นคือ ความทึบที่ปล่อยให้แสงลอดผ่านออกมาได้น้อยหรืออาจไม่ได้เลย แต่ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของผ้าที่นำมาใช้ผลิตเป็นผ้าม่านเช่นกัน
โดยในปัจจุบันผ้าม่านกันแสงจะมีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ ผ้า BLACKOUT (แบล็กเอาท์) และ DIMOUT (ดิมเอาท์) ที่มีความแตกต่างกันด้านกระบวนการผลิต โดยแบบ DIMOUT จะเป็นการประกบเนื้อผ้าเข้าด้วยกัน แต่สำหรับผ้าม่านแบบ BLACKOUT นั้น จะมีการผลิตที่ไม่เหมือนกันในแต่ละแบบ โดยสามารถแบ่งออกได้ 3 ชนิด ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างผ้าม่านทึบแสงทั้งสองชนิด คือ “ระดับการป้องกันแสง” ที่ผู้ใช้จะต้องจดจำให้ดี เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณสมบัติในการใช้งาน โดยผ้าม่านแบบ DIMOUT จะสามารถกันแสงได้ตั้งแต่ 40% – 95% ขึ้นอยู่กับโทนสีและเนื้อผ้า ในขณะที่ผ้าม่าน BLACKOUT จะสามารถป้องกันแสงได้สูงสุด 100% จากการเคลือบโฟม 3 ชั้น , เคลือบซิลิโคน หรือ เพิ่มวัสดุทึบแสงไว้ระหว่างกลางเนื้อผ้านั่นเอง
✔ ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดด ทำให้อุณหภูมิภายในไม่ร้อนอบอ้าว ประหยัดไฟได้ดี
✔ ช่วยกันแสงเล็ดลอดเข้ามาให้ได้สูงสุดถึง 100% ขึ้นอยู่กับชนิดของผ้าม่านและโทนสีที่เลือก
✔ สามารถป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดี
✔ ช่วยคงสภาพของเฟอร์นิเจอร์ให้เหมือนใหม่ ป้องกันความเสียหายจากความร้อนและไอแดดที่อาจทำให้สีซีด หรือทำให้วัสดุเสื่อมคุณภาพ
ควรเลือกผ้าม่านที่ใช้เส้นด้ายกัน UV (High Density Black Yarn) ในการทอ เพราะจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานทั้งด้านการป้องกันแสง ความร้อน และรังสีต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ และที่สำคัญควรเลือกแบบที่มีเนื้อผ้าหนาฟู เพราะจะทำให้มีพื้นที่ผ้ามากขึ้นสำหรับป้องกันการเข้าถึงของแสงได้
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ว่าการเลือกโทนสีของผ้าม่านมีส่วนช่วยในการป้องกันแสงค่อนข้างสูง เพราะถึงแม้จะถูกผลิตด้วยนวัตกรรมการเคลือบสารทึบแสง แต่ถ้ามีสีอ่อน เนื้อบาง เปอร์เซ็นต์ในการป้องกันก็จะลดลง และอาจไม่ได้ความทึบเท่าที่ต้องการ ดังนั้นการเลือกผ้าม่านกันความร้อนโทนเข้มอย่าง สีเทาเข้ม สีน้ำตาล สีม่วง สีบานเย็น สีกรมท่า สีน้ำเงิน สีมิงค์ สีโอลีฟ สีน้ำตาลทอง หรือสีเลือดหมู จะช่วยการันตีประสิทธิภาพความทึบได้มากกว่า
สำหรับคนที่ไม่ชอบโทนสีเข้ม ๆ เพราะรู้สึกว่าจะทำให้ห้องดูมืดไป แต่ก็ต้องการได้ผ้าม่านที่มีประสิทธิภาพด้านการป้องกันแสงและ UV ที่ดีที่สุด คุณสามารถเลือกใช้ผ้าม่านทึบแสงสีอ่อนได้ แต่ต้องมั่นใจว่าผ้าที่เลือกนั้น จะถูกถักทอโดยเส้นใยกันแสง UV และต้องผ่านกระบวนการผลิตแบบ BLACKOUT ชนิดหลังผ้า เพื่อให้สามารถป้องกันแสง 100%
หลังจากที่รู้เทคนิคไปแล้วว่าควรจะเลือกผ้าม่านกันแสงอย่างไร และผ้าม่านสีอะไรจึงจะทำให้ห้องเย็นได้ อย่าลืมมาเลือกผ้าม่านทึบแสง ที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพในราคาเป็นมิตรกันที่ HOME-WALLPAPERS ศูนย์รวมผ้าม่านและวอลล์เปเปอร์คุณภาพเยี่ยม มีหลากหลายดีไซน์ พร้อมบริการติดผ้าม่านคอนโดและบ้านให้ถึงที่ โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ สนใจสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ เบอร์โทร. 091-562-1591